Fedora 25 การติดตั้งและใช้งาน

เป็น Linux ที่พัฒนามาจาก Red Hat  โดย  Red Hat จะเน้นในเรื่องของ enterprise และใช้แพ็คเกจที่มีความเสถียร ส่วน Fedora จะใช้แพ็กเกจที่ใหม่กว่าเพื่อเป็นการทดสอบระบบ และหากทดสอบจนมีความเสถียรมากพอก็จะย้ายเข้าไปใส่ใน  Red Hat เพื่อใช้ในระดับของ enterprise ต่อไป โดย default desktop จะเป็น gnome ที่มีความสวยงามและทันสมัย สำหรับในการรับทำแอพพลิเคชั่นเราจะไม่ได้ใช้ red hat เบสเนื่องจากจะมี software หลายๆตัวที่ไม่รองรับและต้องทำการคอมไพล์จากซอสทำให้ค่อนข้างไม่สะดวก ส่วนในการรับทำแอพเราจะใช้เป็น debian base  อย่างเช่น linux mint เป็นต้น

การติดตั้ง

เริ่มจากการดาวน์โหลดเข้าไปที่เว็บไซต์ getfedora.org เลือกดาวน์โหลดแบบ workstation  จากนั้น download ไฟล์ iso มาเก็บไว้หากต้องการติดตั้งผ่าน cd หรือ flash drive ให้ทำการเบิร์น iso ไปที่ flash drive หรือ cd นั้น แต่ในตัวอย่างจะเป็นการติดตั้งไปที่ virtualbox ซึ่งไม่ต้อง burn ไปที่ cd หรือ flash drive

ดาวน์โหลด Fedora

จากนั้นทำการสร้าง virtual machine ขึ้นมาโดยใส่ ram เป็น 4 หรือ 8 กิกะไบต์เลือก hard drive เป็นขนาด 12 กิกะไบต์ ส่วน cpu ใช้เป็น 2 core เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน เสร็จแล้วเริ่มทำการติดตั้งโดยกดปุ่มสตาร์ทถ้าเป็นการติดตั้ง fedora ครั้งแรกจะมีการถามหาไฟล์ iso สำหรับการติดตั้งให้เลือกไฟล์ iso ที่ดาวน์โหลดมาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

เมื่อบูตเข้ามาแล้วระบบจะมีตัวเลือกตัวเลือกให้ 3 ตัวเลือกคือ เริ่มทำการติดตั้ง ทดสอบไฟล์ iso หรือ cd rom และการ troubleshooting หรือแก้ปัญหาของระบบที่มีการติดตั้งไปแล้ว ให้กดลูกศรขึ้นเพื่อทำการเลือกการติดตั้งแล้วกด enter จากนั้นจะมีให้เลือกว่าต้องการที่จะลองใช้งานหรือต้องการติดตั้งไปที่ Hard Disk ให้เลือกว่าเป็นการติดตั้งลงไปที่ Hard Disk

หน้าจอติดตั้ง Fedora

เริ่มการติดตั้งโดยการเลือกภาษาหากต้องการภาษาไทยให้เลือกภาษาไทยแต่ในตัวอย่างจะเลือกเป็นภาษาอังกฤษ United states ถัดมาจะมีตัวเลือกให้ 4 หัวข้อคือการตั้งค่าคีย์บอร์ด เวลา ปลายทางการติดตั้งและระบบ network

เริ่มจากคีย์บอร์ดให้ทำการเพิ่มคีย์บอร์ดภาษาไทย โดยสามารถทดลองพิมพ์ได้ที่กล่องข้อความทางด้านขวามือว่าตัวอักษรบนแป้นพิมพ์กับที่แสดงผลตรงกันหรือไม่

จากนั้นให้มาเลือกในเรื่องของฮาร์ดดิสก์ที่ต้องการติดตั้งโดยเลือกการแบ่งพาติชั่นเป็นแบบ automatic หากต้องการให้วิดีโอหน้าทำการแบ่ง partition ให้โดยอัตโนมัติ หรือเลือกแบบแมนนวลหากต้องการแบ่งเองหรือ hdd เดิมมีข้อมูลอยู่แล้วต้องการที่จะการพื้นที่เอาไว้สำหรับข้อมูลเก่า

ในส่วนของ network หากมีการใช้สายแลนและมีการแจก ip โดยอัตโนมัติระบบจะมีการตั้งค่าไว้ให้อยู่แล้วแต่หากมีการใช้งานแบบ wifi ต้องมีการใส่รหัสผ่านของ ssid ให้ทำการเลือกตั้งค่าที่หัวข้อนี้ และในส่วนของเวลาสามารถไปตั้งค่าในภายหลังได้

จากนั้นกด begin installation หรือเริ่มต้นการติดตั้งในหน้าจอนี้จะมีตัวเลือกให้อีก 2 หัวข้อคือการตั้ง password สำหรับ root และการสร้าง user ขึ้นมาใหม่โดยในระหว่างนี้ระบบจะเริ่มทำการติดตั้งไปด้วยพร้อมกัน สำหรับตัวเลือกในการสร้าง password สำหรับ root เราจะไม่สร้างก็ได้หากเราไม่สร้างพาสเวิร์ดสำหรับ root เราจะต้องสร้าง user ใหม่ขึ้นมาให้มีสิทธิ์เป็น admin ส่วน password ของรูทนั้นการไม่สร้างจะค่อนข้างทำให้ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในการรับทำแอพของเราระบบส่วนใหญ่ที่เราสร้างขึ้นมาจะไม่มีการเซ็ตรหัสผ่านสำหรับ root เพื่อความปลอดภัย เพราะการที่จะแฮกเข้ามาในระบบจะต้องมีการเดาทั้ง username และ password  แต่หากมีการตั้ง password สำหรับ root สามารถที่จะใช้ user เป็น root และเดาเพียง password อย่างเดียวได้ ทำให้ไม่ปลอดภัยสำหรับการรับทำแอพพลิเคชั่น

เมื่อเสร็จแล้วให้เลือก quit ออกจากระบบแล้วทำการ restart ระบบใหม่โดยให้เอาไฟล์ iso ออกจาก virtual cd หรือเอา flash drive ออกจากเครื่องในกรณีที่ติดตั้งกับเครื่องจริง หากลืมเอาออกเวลาที่รีสตาร์ทแล้วกลับเข้ามาใหม่จะเป็นการ boot เข้าแผ่น cd หรือไฟล์ iso อีกครั้งจะเป็นการเริ่มติดตั้งวิลล่าใหม่อีกครั้งแทงการ restart เข้าระบบที่เราต้องการ หากลืมไปแล้วก็สามารถที่จะกดเอาออกและกดรีสตาร์ทใหม่ได้ จากนั้นระบบจะทำการ boot เข้าระบบที่เราเพิ่งติดตั้งลงไปใหม่เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน

การติดตั้ง VirtualBox Guest Additions

เริ่มจากการ update kernel ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วยคำสั่ง

sudo dnf update kernel*

จากนั้นทำการ insert Guest Additions ผ่านทางเมนูของ virtualbox

หากมี autorun ขึ้นมาให้กด cancel ไปก่อนเพราะจะเริ่มทำการติดตั้งโดยการใช้ command line

โดยเริ่มจากการสร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อ cd rom เข้ามาด้วยคำสั่ง

sudo mkdir /media/VirtualBoxGuestAdditions

จากนั้นให้ทำการ mount ตัว cd rom เข้ามาที่โฟลเดอร์ที่เพิ่งสร้างไป

sudo mount -r /dev/cdrom /media/VirtualBoxGuestAdditions

หากใช้คำสั่ง mount แล้วมี error ให้ restart กลับเข้ามาใหม่แล้วลองสั่งคำสั่งใหม่อีกครั้ง จากนั้นให้ติดตั้ง package ที่ต้องการตามนี้

sudo dnf install gcc kernel-devel kernel-headers dkms make bzip2 perl

ต่อไปจะเป็นการประกาศค่าตัวแปรสำหรับใช้ในการติดตั้ง

KERN_DIR=/usr/src/kernels/`uname -r`

หรือ

KERN_DIR=/usr/src/kernels/<folder kernel ที่ดาวโหลดมาใหม่>

ตามด้วย

export KERN_DIR

เข้าไปที่โฟลเดอร์ของ

cd /media/VirtualBoxGuestAdditions

แล้วใช้คำสั่ง

sudo ./VBoxLinuxAdditions.run

เมื่อโปรแกรมทำการติดตั้งเสร็จแล้วให้ restart ระบบเพื่อใช้งาน VirtualBox Guest Additions

การเปลี่ยน background

สามารถคลิกขวาที่ desktop และเลือกเปลี่ยน background ได้โดยสามารถเลือกไฟล์รูปภาพที่มาพร้อมกับระบบที่มีการติดตั้งหรือจะเลือกไฟล์จากโฟลที่เราดาวน์โหลดมาเองได้ รวมถึงสามารถที่จะเลือกพื้นหลังเป็นสีที่ต้องการได้

 

การเปลี่ยนภาษา

สามารถเข้าไปที่ system setting เลือกคีย์บอร์ดทำการเลือกปุ่มสำหรับเปลี่ยนภาษาซึ่งในวีดีโอนี้จะแนะนำให้ใช้เป็นปุ่ม alt + space  เนื่องจากมีความคล่องตัวในการใช้งานสูงโดยเฉพาะสำหรับการพิมพ์สัมผัส แต่ปุ่ม alt + space นี้จะซ้ำการกลับการ activate menu ให้เราเข้าไปทำการยกเลิกการใช้คีย์ alt + space กับ activate menu ด้วยเพื่อให้การใช้งานไม่เกิดปัญหา

 

การติดตั้งซอฟต์แวร์

สำหรับ fredora จะมีโปรแกรม software  มาให้ด้วย โดยสามารถเปิดเพื่อทำการค้นหาและติดตั้งซอฟต์แวร์ที่รองรับสำหรับฟีโดร่าโดยตรง โดยซอฟต์แวร์ที่ฟีโดร่ารองรับนั้นจะต้องเป็น open source เท่านั้น

ค้นหาและติดตั้ง Software

ส่วนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่รองรับโดยฟีโดร่า จะต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ของทางผู้ผลิตหากมี file แบบ rpm ก็สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ หรือจะติดตั้งผ่านทาง source code โดยจะต้องมีการ build ขึ้นมาใหม่

การอัพเดท

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จากวีดีโอคลิปทางด้านบน